
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก้าวไกล หวาดหวั่น จังหวัดลพบุรี-จังหวัดสระบุรี เสี่ยงน้ำหลากอีกระลอก หลังเขื่อนป่าสัก เก็บน้ำเกินปริมาตรไปแล้ว พร้อมวิภาควิจารณ์ภาครัฐยังประชาสัมพันธ์อ่อนเกินไป ควรจะเตือนภัยให้ถึงประชาชน
วันที่ 30 เดือนกันยายน 2564 นายสุรเชษฐ์ ประวีที่ตระกูลวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ รวมทั้งรองเลขาธิการพรรค ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจติดตามเหตุการณ์อุทกภัย บอกว่า ภายหลังที่พรรคก้าวไกลได้ตั้งคณะทำงานแล้วก็ได้ติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด ในเวลานี้คณะทำงานมีความเห็นว่า มีพื้นที่เสี่ยงเพิ่มเป็น พื้นที่ท้ายน้ำป่าสักชลสิทธิ์ รอบๆจังหวัดลพบุรี และก็จังหวัดสระบุรี ก็เลยจำต้องรีบออกประกาศเตือนประชาชน
นายสุรเชษฐ์ อธิบายว่า หากย้อนไปก่อนหน้านี้ เขื่อนป่าสักฯ ยังเหลือความจุให้กักเก็บน้ำอยู่มาก โดยก่อนพายุเตี้ยนหมู่จะมาถึง เขื่อนป่าสักฯ มีน้ำอยู่เพียง 427 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งไม่ถึงครึ่งหนึ่งของความจุเขื่อน แต่เมื่อพายุมาถึงทำให้ปริมาณน้ำเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ล้านลูกบาศก์เมตรในแต่ละวัน โดยรับน้ำมาจากอำเภอหล่มสัก อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี วันเดียวมีน้ำเข้า 209 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้เช้าวันที่ 29 กันยายน เขื่อนป่าสักฯ มีน้ำเก็บกักอยู่ที่ 953 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นกว่า 99% ของปริมาณเก็บกักสูงสุดที่ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหมายความว่า วินาทีนี้ เขื่อนป่าสักฯ น้ำเกินความจุไปแล้ว ถ้าเก็บน้ำเพิ่มกว่านี้ก็จะเป็นจุดเสี่ยงที่เผื่อความจุน้ำไว้ที่ 1,080 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่เหลือคือ น้ำล้นออกจากเขื่อนมายังท้ายเขื่อนทั้งหมด และควบคุมไม่ได้ XOSLOT
“สถานการณ์ตอนนี้เหมือนน้ำเต็มแก้ว น้ำที่เข้ามาทุกวัน วันละหลักร้อยจะมีอีก 1-2 วัน แล้วถามว่าน้ำเหล่านี้จะไปไหนต่อ? คณะทำงานของเราคาดว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำป่าสักระหว่างเขื่อนป่าสักฯ และเขื่อนพระราม 6 จะได้รับผลกระทบทันที เพราะน้ำล้นไปแล้ว น้ำจะมาอีกเท่าไรก็ไหลลงต่อไปเท่านั้น เพราะเขื่อนป่าสักฯ เก็บน้ำเพิ่มไม่ได้
รอบๆที่ได้รับผลพวงโดยทันที เป็นต้นว่า ขอบสองฝั่งแม่น้ำป่าสักรอบๆอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี อำเภอวังม่วง อำเภอแก่งรอ อำเภอเมือง อำเภอเสาไห้ แล้วก็อำเภอบ้านแพทย์ จังหวัดสระบุรี ขอให้ประชากรที่อาศัยรอบๆดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นเตรียมรับมือ โดยเวลานี้หน่วยงานราชการได้ออกประกาศเตือนภัยแล้ว แต่ว่าการประชาสัมพันธ์อ่อนมากมายกระทั่งไม่ถึงหูประชาชน”
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่ากล่าว เมื่อจังหวัดลพบุรีกับจังหวัดสระบุรีท่วมแล้ว ผ่านเขื่อนพระราม 6 ก็จะมาถึงอยุธยา ซึ่งเหตุการณ์ในขณะนี้ท้ายน้ำพระราม 6 ก็มีจำนวนน้ำมากมายด้วยเหมือนกัน แม้กระนั้นเมื่อมวลน้ำมาถึงอยุธยาคงจะมิได้ทำให้เหตุการณ์ชั่วร้ายลงมากนัก เนื่องจากเป็นหลักที่กว้างรวมทั้งแผ่ขยายออก น้ำมีทางไปสองทาง เป็นไปบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา หรือเข้าทางคลองระพีพัฒน์ แม้กระนั้นจำนวนน้ำเท่านี้ยังไม่น่าจะมีผลมาถึงกรุงเทพมหานคร เนื่องจากว่าตอนนี้ ลำคลองระพีพัฒน์เป็นต้นมายังสามารถรับน้ำได้อีกพอควร
โดยสรุปเหตุการณ์ในตอนนี้ สองฝั่งริมน้ำป่าสักในพื้นที่จังหวัดลพบุรีและก็จังหวัดสระบุรีจะได้รับผลพวงโดยทันที ส่วนอยุธยาจะได้รับผลพวงในลำดับต่อไป ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต่อกรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะควรรวมทั้งทันเวลา
Be the first to comment