‘จุรินทร์’ย้ำพร้อมหนุนอดีต ส.ส.ชิงเก้าอี้ ลั่น! ปชป.รู้หน้าที่งานสภา

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 ต.ค. 2564 ที่โฮเต็ลศิวา รอยัล อำเภอเมือง จังหวัดจังหวัดพัทลุง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกฯ แล้วก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พร้อมด้วย นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง นายสุพัฒน์ ธรรมเพชร อดีต ส.ส.พัทลุง น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ พบผู้นำทางศาสนาอิสลาม ดร.อะห์มัด อิสัน ประธานกรรมการสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดพัทลุง และSLOTXOรองประธานสมาพันธ์กรรมการอิสลาม 15 จังหวัดภาคใต้

โดยภายหลังการเข้าพบผู้นำทางศาสนา นายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการคัดสรรผู้สมัครที่จะต้องทำไพรมารีโหวตหรือไม่นั้น ว่า ขึ้นอยู่กับกฎหมายลูก กฎหมายเลือกตั้งผู้แทนราษฎร และกฎหมายพรรคการเมือง ที่จะเป็นตัวชี้ว่าขั้นตอนกระบวนการในการอนุมัติผู้สมัครจะต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง แต่สำหรับกฎหมายปัจจุบันจะต้องทำไพรมารีโหวต แต่ในอนาคตนั้นตนยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับกฎหมายใหม่ที่ต้องสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการวางตัวอดีต ส.ส.ของพรรค เป็นผู้สมัครในการเลือกตั้งอย่างไรนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำหรับอดีต ส.ส.นั้น ก็ถือหลักว่าพรรคก็จะสนับสนุนให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่การพิจารณานั้นก็ต้องดูความประพฤติทางการเมืองประกอบด้วย ซึ่งผู้บริหารจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจตามขั้นตอนกระบวนการต่อไป

ส่วนการที่นายกรัฐมนตรี ได้มีการให้กำชับ ส.ส.พรรครัฐบาลร่วมโหวตกฎหมายในการประชุมสมัยหน้านั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีความรับผิดชอบอยู่แล้ว และเราทราบดีว่าการเมืองประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราต้องทำหน้าที่ในสภาอย่างไรบ้าง และเสียงในสภามีความสำคัญต่อเสถียรภาพรัฐบาลอย่างไร การกำชับให้ ส.ส.ของพรรคประชุมสภาโดยพร้อมเพรียง เป็นเรื่องที่วิปพูดทุกครั้งในที่ประชุม ส.ส.ของพรรคอยู่แล้ว ท่านนายกฯ จะกำชับหรือไม่ เราทำหน้าที่อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการประชุมสภาที่ผ่านมา เกิดกรณีสภาล่มหลายครั้งนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี ตนจะไม่ไปชี้แจงแทนว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาลที่จะเป็นผู้ดำเนินการ

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามถึงผลประชุม กรอ.ที่ จ.สตูล เมื่อวานนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตนได้ประชุมจังหวัด ข้าราชการทุกภาคส่วน และภาคเอกชน ได้ข้อสรุปเพื่อเสนอต่อที่ประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.กระบี่ จำนวน 11 โครงการ แต่เบื้องต้นได้จัดลำดับความสำคัญ โดยมี 3 โครงการ 1.โครงการสะพานสตูลนริศของมาเลเซีย ซึ่งอยากให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาและจัดงบประมาณดำเนินการในเรื่องนี้ 2.โครงการศูนย์บริการด้านการแพทย์ ที่เกาะหลีเป๊ะ 3.โครงการหอประชุมนานาชาติที่ดึงนักท่องเที่ยวและดึงการประชุมนานาชาติหรือการประชุมในประเทศ เพื่อเสริมศักยภาพด้านเศรษฐกิจให้กับ จ.สตูล และตนจะต้องประชุมทั้ง 6 จังหวัดอีกครั้งหนึ่งในฝั่งอันดามัน โดยมี จังหวัดจังหวัดระนอง จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต กระบี่ จังหวัดตรัง แล้วก็ จังหวัดจังหวัดสตูล โดย จังหวัดจังหวัดสตูล สัมมนาจบแล้วเมื่อวานนี้ แล้วก็วันนี้จะไปสัมมนาที่ จังหวัดจังหวัดตรัง ส่วนอีก 4 จังหวัด ตนติดตามมาตลอดว่ามีโครงงานอะไรบ้างแต่ว่าชักชวนสรุปอีกครั้งเพื่อนำเสนอต่อห้องประชุม คณะรัฐมนตรีเดินทาง ถัดไป