
หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แถลงสำหรับการสัมมนาหัวหน้าระดับสูงที่หัวหน้านานาประเทศแถลงจุดยืนแล้วก็คำประกาศเกี่ยวกับภารกิจลดโลกร้อน โดยบอกว่าไทยจะยกระดับเป้าหมายลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเป้าหมายของชาติในการลดก๊าซเรือนกระจก (NDCs) ที่ไทยตั้งไว้ คือ จากการลดปล่อยก๊าซ 20% และ 25% หากได้รับการสนับสนุนจากอนุสัญญาโลกร้อน ในช่วงสิบปีนี้ ไทยจะยกระดับเป็น 40% จากการผลิตเดิมในปี ค.ศ.2005 นั้น
นายธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการ กรีนพีซ ประเทศไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขอพูดภาษาชาวบ้าน คือ อีหยังวะ รัฐมนตรีไม่ได้พูดถึงเลขลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ตอนแถลงข่าวที่ไทย แต่พอถึง กลาสโกลว์เลขนี้ก็โผล่มา ในฐานะเป็นคนที่ติดตามประเด็นบทบาทของไทยกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมายาวนาน รู้สึก แปลกใจ กับคำแถลงใหม่ยาว 2 นาที ของพล.อ.ประยุทธ์ อย่างยิ่ง
“ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีการพูดถึงเลข 40% มาก่อน เมื่อ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดแถลงข่าวสัปดาห์ที่แล้วก็ไม่ได้พูดถึง นอกจากนั้นแผนลดโลกร้อนที่ไทยส่งให้สหประชาชาติเป็นลายลักษณ์อักษรยังไม่เคยระบุถึง ล่าสุด ยังไม่มีรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมายลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกดังกล่าวจากทางการไทย ขอท้าให้สำนักงานแผนและนโยบายสิ่งแวดล้อมดึงแผนลดโลกร้อนที่ส่งสหประชาชาติไปแล้วกลับมาแก้ไขเป็นเลข 40% ให้ชัดเจน”นายธารา กล่าว
น.ส.วนัน เพิ่มพิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์กร Climate Watch Thailand กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไทย ได้ยกตัวอย่างว่าไทยประสบความสำเร็จในการลดโลกร้อนในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ไทยเคยตั้งเป้าว่าลดปล่อยก๊าซ 7% แต่ทำได้ถึง 17% ในปี 2019 ปริมาณมากกว่าเดิมสองเท่าและเร็วกว่าที่กำหนดไว้หนึ่งปี ซึ่งเราได้ยินหน่วยงานพูดว่าไทยทำได้เยอะมานานแล้ว แต่ทำไมถึงไม่เปลี่ยนตัวเลขในเอกสารส่งสหประชาชาติ แต่มาพูดในคราวนี้ เอกสารใหม่ที่ไทยส่งให้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยโลกร้อน (UNFCCC) เมื่อ 30 ตุลาคม 2021 และเปิดXOSLOTตัวว่าเป็นกลไกลดโลกร้อนใหม่ในงานประชุม COP รอบนี้ พบว่าไม่มีเอกสารตัวไหนระบุถึงตัวเลขลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40%
นส.วนัน กล่าวว่า สงสัยว่า ไทยจะลดปล่อยก๊าซด้วยวิธีไหน แผนไทยระบุไว้ว่า จะลดก๊าซเรือนกระจก 20-25% ในภาคพลังงานและคมนาคม แต่เลขใหม่กลับยังไม่มีความชัดเจนและอาจมาจาก “ภาคป่าไม้” ซึ่งไทยมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนป่าไม้ หวังให้เป็นแหล่งดูดซับก๊าซเรือนกระจกและใช้ซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิตกับต่างชาติ ไทยตั้งเป้าจะเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ให้ได้สัดส่วน 55% ของพื้นที่ประเทศไทย ตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติและยุทธศาสตร์พัฒนาชาติ 20 ปี อีกหนึ่งตัวเลขใหม่ที่ปรับจากแผนเพิ่มพื้นที่ป่า 40% ภาคป่าไม้เป็นส่วนสำคัญที่ต้องจับตาในการประชุมโลกร้อนสองอาทิตย์นี้ เพราะกลไกซื้อขายคาร์บอนผ่านภาคป่าไม้ต่างๆ ระดับสากลจะมีอิทธิพลต่อทิศทางของนโยบายป่าไม้ต่อไป ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาแบบ ความหวังปลอม เนื่องจากแทนที่ประเทศจะให้ความสำคัญกับการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่กลับเน้นศักยภาพดูดซับก๊าซแทน อีกทั้งยังเป็นทิศทางการพัฒนาที่นำทรัพยากรธรรมชาติไปตีมูลค่าในตลาด ให้น้ำหนักกับภาคเอกชนมากกว่าประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบางอย่างเกษตรกร เห็นจากที่นายกกล่าวในการแถลงช่วงท้ายถึงรูปแบบเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว (BCG) ซึ่งไทยกำลังผลักดันและจะนำไปปรับใช้ในกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (APEC) ที่ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมปีหน้า
นายกฯมีระบุเข้าสัมมนาหัวหน้าระดับสูงโลกร้อนต่อในวันนี้รวมทั้งมีระบุกลับไทยเย็นวันที่ 3 พ.ย. ตอนที่ นายวราวุธ รวมทั้งแผนกผู้ชำนาญจะปฏิบัติการสนทนาต่อ
Be the first to comment