
บิ๊กตู่” ชี้ สภาวะโลกร้อน เป็นอีกภัยเงียบที่กำลังขู่คำรามดังขึ้นแต่ละวัน ขอทุกคนตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหา พร้อมใจกันกัน ลั่น สัมมนา COP26 เป็นภารกิจสำคัญเพื่อบุตรหลานแล้วก็อนาคตของประเทศ
เมื่อเวลา 20.14 น. วันที่ 3 พ.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ภาพและข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก หลังเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย จากการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ระบุถึงคำว่า “โลกกำลังป่วย” ไม่ได้เป็นคำพูดที่เกินจริง ไม่เพียงแต่วิกฤติโควิด-19 ที่กำลังเป็นภัยคุกคามต่อชาวโลกในขณะนี้ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อคนไทยทุกอาชีพทุกวัย
นอกจากนี้ “ภาวะโลกร้อน” ก็เป็นอีกภัยเงียบที่กำลังส่งเสียงคำรามดังขึ้นๆ ทุกวัน จนเป็น Code Red ที่ส่งผลต่อความผิดปกติทางธรรมชาติที่เราเห็นได้ชัด ดังนั้น ตนเองและผู้นำจาก 197 ประเทศทั่วโลก จึงได้เข้าร่วมภารกิจเพื่อมวลมนุษยชาติ ในการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26)
พล.อ.ประยุทธ์ เผยต่อไปว่า หากปล่อยให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นเพียง 2 องศาเซลเซียส ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นเฉลี่ยทั่วโลก 1.1 เมตร ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักในเมืองต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงกรุงเทพมหานคร ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงจากน้ำท่วมตามแนวชายฝั่งและการทรุดตัวของดิน โดยมีการคาดการณ์ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมากที่สุดเป็นลำดับที่ 9 ของโลก อีกทั้งยังมีความเสี่ยงเรื่องน้ำท่วม ฝนแล้ง พายุรุนแรง ที่ส่งผลต่อพืชผลทางการเกษตร และความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคนด้วย
“ผมถือว่าการมาประชุม COP26 ครั้งนี้ เป็นภารกิจที่สำคัญเพื่อลูกหลานและอนาคตของประเทศไทย หากเราไม่เริ่มสร้างความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้ วันหน้าอาจจะสายเกินไป ที่ผ่านมารัฐบาลนั้นตระหนักดีถึงภัยคุกคามทางธรรมชาติที่ร้ายแรงนี้ และได้พยายามอย่างเต็มที่จนบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้ ในการประชุม ครม. ทุกครั้งจะต้องมีวาระสำคัญเรื่องนโยบายสิ่งแวดล้อม ทั้งการติดตามเร่งรัดโครงการสืบเนื่อง และการนำเสนอSLOTXOโครงการใหม่ที่ป้องกันแก้ไขปัญหาในอนาคต
ผลสำคัญที่ผมอยากจะเรียนแจ้งก็คือ เราสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงานและขนส่งได้จริง คิดเป็นร้อยละ 17.49 จากกรณีปกติ หรือคิดเป็น 64.20 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าภายในปี 2562 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 2 เท่า และเร็วกว่าแผน 1 ปี แต่เราต้องไม่พอใจเพียงเท่านี้ รัฐบาลก็เลยเห็นดีเห็นงามให้มีการเดินหน้าขับแนวนโยบาย BCG อย่างเต็มกำลัง นั่นก็คือแนวความคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนวน รวมทั้งเศรษฐกิจสีเขียว ให้เป็นหัวใจสำคัญของที่มีความสำคัญในการรบชาติ”
Be the first to comment