‘พิชัย’ ห่วง ‘บิ๊กตู่’ ทำ ‘ไทยหนี้ล้น’ ไม่มีปัญญาใช้คืน

‘พิชัย’ ห่วง ‘บิ๊กตู่’ ทำ ‘ไทยหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม’ ไม่มีปัญญาใช้คืน

“พิชัย” ห่วง “บิ๊กตู่” ทำ “ไทยหนี้สินล้น ประชากรหนี้สินท่วม” ยกเพดานหนี้สินสาธารณะเป็น 70% จะไม่มีปัญญาจ่ายหนี้คืน ชี้ โป้ปดมดเท็จไม่เลิก สวนข้อเท็จจริง แนะเปลี่ยนหัวหน้าที่ต้องเฉลี่ยวฉลาดกว่านี้

 

วันที่ 20 กันยายน 64 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยทางด้านเศรษฐกิจ บอกว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์กำลังจำเป็นต้องยกเพดานหนี้สินสาธารณะจาก 60% ของจีดีพี เป็น 70% ของจีดีพี ทั้งๆที่พยายามโวมาตลอดว่าหนี้สินสาธารณะจะไม่เกินเพดาน 60% แม้กระนั้นในที่สุดก็จำต้องกู้ทะลุเพดาน รวมทั้งเกิดเรื่องที่น่าวิตกมากมาย เนื่องจากตลอด 7 ปีที่ล่วงเลยไป พล.อ.ประยุทธ์ไม่ทราบจะการหาเงินมาจ่ายและชำระหนี้เลย โดยเหตุนี้การที่หนี้สินสาธารณะจะพุ่งไปถึง 70% จะมีผลให้รัฐบาลมีปัญหาสำหรับเพื่อการจ่ายและชำระหนี้ เพราะว่าตอนนี้รายได้ของเมืองซึ่งส่วนมากมาจากเงินภาษีที่เก็บได้ลดน้อยลง เหลือแค่ 13-14% ของจีดีพีเพียงแค่นั้น รายได้จะไม่สามารถที่จะชำระหนี้ได้เลย จะมาอ้างประเทศอื่นอาทิเช่น ประเทศญี่ปุ่น หรือ สหรัฐอเมริกา ที่มีรูปทรงหนี้สินสาธารณะสูงขึ้นยิ่งกว่า แม้กระนั้นประเทศเขาเก็บภาษีได้ในรูปร่างที่สูงกว่าเมืองไทยมากมายเหมือนกัน การที่พล.อ.ประยุทธ์กู้จนถึงใกล้จะถึง 70% จะคือปัญหาสำหรับรัฐบาลในอนาคตที่จะจำต้องใช้เงินสำหรับในการรู้สึกตัวเศรษฐกิจ เพราะเหตุว่าถ้าหากพล.อ.ประยุทธ์กู้มากเกิน รัฐบาลในอนาคตแม้ว่าจะมีความรู้และมีความเข้าใจมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นจะขาดเงินเหลือให้กู้มารู้สึกตัวเศรษฐกิจได้ ราษฎรจะทุกข์ยากลำบากกันอย่างหนักแล้วก็นาน G2GBET

 

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่าหนี้ครัวเรือนได้ขึ้นไปถึง 14.13 ล้านล้านบาท หรือ 90.5% ของจีดีพี และจะทะลุ 93% ภายในสิ้นปี ซึ่งแสดงถึงความลำบากของประชาชนที่รายได้ไม่พอค่าใช้จ่ายจึงต้องไปกู้หนี้ยืมสินจนหนี้ทะลุไปมาก ดังนั้นจะเห็นได้ว่าตลอดเวลาที่พลเอกประยุทธ์บริหารเศรษฐกิจล้มเหลวจนทำให้ “ประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม” หนี้สินเพิ่มพูน ลำบากกันตั้งแต่รัฐบาลยันประชาชนเลย

 

นายพิชัย กล่าวต่อว่า ดังนั้นการที่พลเอกประยุทธ์ขายฝันอีกครั้งว่าจะทำให้ไทยเป็นประเทศมีรายได้สูง มีความสงบ และคนไทยมีความสุข จึงไม่เป็นความจริง และยังเป็นการโกหกพูดเรื่อยเปื่อยเพื่อจะเอาตัวรอดในภาวะวิกฤตินี้เท่านั้น ทั้งนี้เพราะตามยุทธศาสตร์ชาติเองเศรษฐกิจไทยจะต้องขยายตัวปีละ 5% ไปอีก 20 ปี ประเทศไทยถึงจะเป็นประเทศที่มีรายได้สูงได้ แต่ 7 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์บริหารเศรษฐกิจของไทยขยายตัวเฉลี่ยได้เพียง 2% เท่านั้น และ 2 ปีที่ผ่านมาที่มีการนำยุทธศาสตร์ชาติมาเริ่มใช้ พลเอกประยุทธ์กลับบริหารเศรษฐกิจติดลบถึง -3.8% ด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าขยายตัวในระดับนี้อีก 50 ปี ไทยก็เป็นประเทศรายได้สูงไม่ได้ แบบนี้ถือเป็นเฟกนิวส์หรือไม่

 

นายพิชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ประเทศจะสงบได้อย่างไร ในเมื่อประชาขนจำนวนมากลำบากและเดือดร้อนจึงทนต่อความล้มเหลวของพลเอกประยุทธ์ไม่ได้ และต้องออกมาประท้วงขับไล่ แต่พลเอกประยุทธ์กลับให้ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ซึ่งได้รับบาดเจ็บกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งคนไทยจะมีความสุขได้อย่างไรในเมื่อญาติพี่น้องเพื่อนฝูงต้องมาเจ็บมาตายจากไวรัสโควิดจากความล้มเหลวของพลเอกประยุทธ์ที่ไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ อีกทั้งยังบริหารจัดการวัคซีนผิดพลาดมาตลอดพร้อมข่าวคราวการทุจริตคอร์รัปชันในส่วนต่างของราคาวัคซีน ซึ่งส่งผลทำให้เศรษฐกิจไทยต้องย่ำแย่ ประชาชนไม่มีรายได้ ตกงาน และอดอยากกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นสิ่งที่พลเอกประยุทธ์พูดมาจึงตรงข้ามกับความเป็นจริงทั้งหมด และพลเอกประยุทธ์จะไม่สามารถทำได้จริงตามที่พูด เป็นได้แค่การขายฝัน โดยมีแต่จะทำให้แย่ลงไปเรื่อยๆ

 

การที่ไทยจะเป็นประเทศรายได้สูง ประเทศมีความสงบเงียบ และก็ชาวไทยแฮปปี้ได้ เมืองไทยต้องมีหัวหน้าที่เฉลี่ยวฉลาดกว่าหัวหน้าในตอนนี้มากมาย โดยจึงควรมีความรู้และก็ตามโลกให้ทัน คิดล่วงหน้าได้ แล้วก็สามารถจะทำหลายๆเรื่องได้พร้อม ไม่ใช่ถูกด่าทอครั้งถึงจะทำที รวมทั้งที่สำคัญต้องมีใจรักราษฎรอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่คำกล่าว ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ตรงกันข้ามกับพล.อ.ประยุทธ์ทั้งหมดทั้งปวง ด้วยเหตุผลดังกล่าวแม้เมืองไทยจะเจริญก้าวหน้าถัดไปได้ ไทยจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงหัวหน้าที่เฉลี่ยวฉลาดแล้วก็เก่งกว่าตอนนี้มากมายแค่นั้น เพราะเหตุว่าหัวหน้าเดี๋ยวนี้ยากที่จะปรับปรุงแก้ไขรวมทั้งเปลี่ยนได้แล้ว XOSLOT

“การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นประเทศรายได้สูง มีการกระจายรายได้ ยกระดับความเป็นอยู่ของคนไทย เป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยมาตลอด โดยมีแผนงานและวิธีการชัดเจน ซึ่งหากมองย้อนหลังจะพบว่าหากไม่มีการปฏิวัติเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ประเทศไทยน่าจะพัฒนาเป็นประเทศรายได้สูงไปแล้ว เหมือนที่ประเทศเอสโตเนียได้พัฒนาประเทศ นับเป็นความสูญเสียโอกาสอย่างใหญ่หลวงของประเทศไทยที่เกิดมาจากการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก” นายพิชัย กล่าว.

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*